NOW eXplorer
- เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา NOW Times ฉบับที่ 5 ก็ได้ลงข่าวมากมายและหนึ่งในนั้นคือข่าวการยุบรายการ Divas Night plus ซึ่งได้ออกอากาศไป 1 วีคแล้วแต่ปรากฏว่าเสียงตอบรับเงียบสนิท นอกจากไม่ทำกำไรตามที่คาดไว้แล้วยังขาดทุนยับเยิน แม้จะครีเอทีฟรายการได้น่าสนใจแต่ทว่าด้วยนักมวยปล้ำหญิงที่มีแค่ 3 รายและไม่ได้โด่งดังได้รับความนิยมใดๆ ทำให้ยอดจำหน่ายบัตรในรายการ Diva วีคแรกนั้นมีจำนวนแค่ 200 ใบซึ่งถือว่าน้อยมากจากที่ตั้งเป้าไว้ 1500 ใบ และเมื่อพิจารณาตั้งแต่งบประมาณในการโฆษณา การโปรโมต การเปิดรับสมัครและประชาสัมพันธ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในก่อนเปิดโชว์แรก ซึ่งมากไปเป็นแสน เรียกว่าไม่คุ้มค่าเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมา... NOW จึงตัดสินใจย้ายนักมวยปล้ำ Diva จากที่ตอนแรกตั้งเป้าไว้ 10 คนและจะทำเป็นรายการเฉพาะมาเป็นลีค 3 คนปล้ำกันแบบเก็บคะแนน จนกระทั่งล่าสุดตัดสินใจให้ทั้งสามมาชิงแชมป์กันครั้งเดียวจบไปเลยในศึกใหญ่ Monster of The Ring 2012 ส่วนอนาคตนั้นจะมีการคุยกับดีว่าทั้ง 3 คนอีกครั้งว่าจะเซ็นสัญญาต่อไปหรือเชิญออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย
และเนื่องจากมองสถานการณ์ในระยะไกล แม้ NOW จะมีนักมวยปล้ำประสบการณ์สูงมากมายแและยังมีสตาร์หนุ่มอีกจำนวนหนึ่ง แต่ทว่าในระยะยาวนักมวยปล้ำที่สูงอายุแล้วก็จะอาจปลดระวางในที่สุดและหากถึงเวลานั้นแน่นอนว่าการจะหาสมาชิกใหม่มาปั้นให้เก่งทดแทนกันได้ย่อมไม่ทันเวลา เวลานั้นจะกลายเป็นช่วง "ผลัดใบ" ตามประสากีฬาซึ่งหากพูดในแง่การตลาดก็คือช่วงชลอของผลผลิต ซึ่งจะทำให้ NOW ต้องกลับไปอยู่ในช่วงฟื้นฟูกันใหม่อีกครั้ง NOW จึงได้คิดปิดจุดอ่อนข้อนี้ด้วยการหาดาวรุ่งมาทดแทน แต่หลังจากได้ลองเปิดรับดาวรุ่งไปในรอบแรกสุด ก็พบว่าดาวรุ่งที่อยู่ในระดับหัวกะทิความสามารถผ่านตามเกณฑ์ของ NOW ทุกประการนั้นมีจำนวนน้อยนิดมากๆ ดาวรุ่งอย่าง Gabriel Guster , Saito Shimoto , Yu Yamano , Chainarong Ikeda , CJ Kidz , Garside , BlackLeg เหล่านี้เป็นดาวรุ่งฝีมือดีซึ่งหายากมากในปัจจุบัน NOW ซึ่งคิดว่าหากยังใช้เกณฑ์เดิมต่อไปสมาชิกที่เข้ามาอาจมีน้อยลงเรื่อยๆ จึงได้ตัดสินใจทำการตลาดครั้งใหม่โดยการเปิดรายการ Houseshow ในนาม Blaze ขึ้นมา
รายการ Blaze นั้นเริ่มจากเป็น Houseshow ที่จะทัวร์ไปรอบโลกและเปิดรับนักมวยปล้ำจากประเทศนั้นๆมาปล้ำสร้างสีสันในรายการไปด้วย พร้อมกับช่วยโปรโมต Support ค่ายหลักและมีการขายสินค้าต่างๆ ถือเป็นช่องทางการตลาดที่เปิดให้แฟนๆและนักมวยปล้ำทั่วโลกได้มีส่วนร่วมมากขึ้น แถมยังเป็นช่องทางทำกำไรจากสินค้าและใช้แนะนำสตาร์หน้าใหม่ได้ดี แต่ทว่าพอลองคิดทบทวนดูอีกครั้งทางสมาคมก็เปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยกำหนดให้ Blaze เป็นค่ายกึ่ง Houseshow โดยสร้างเข็มขัดแชมป์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดดาวรุ่งที่กำลังค้นหาความสำเร็จได้เข้ามาแข่งขันกัน ในขณะเดียวกันก็ยกเลิกข้อกำหนดในตอนแรกว่า "นักมวยปล้ำสัญชาติเดียวกับประเทศในการทัวร์เท่านั้นจึงจะสมัครได้" มาเป็นนักมวยปล้ำสัญชาติใดๆก็สามารถสมัครได้ โดยมอบเงื่อนไขสัญญาระยะสั้นหากโชว์ฟอร์มได้ดีจะได้รับการเสนอสัญญาระยะยาวอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ค่ายหลัก Fightclub แนวทางของรายการก็ไม่เน้นเนื้อเรื่องเพราะต้องตระเวนปล้ำไปหลายๆประเทศและเพื่อไม่ให้ผูกมัดนักมวยปล้ำมากเกินไป การรับสมัครก็ลดความเข้มข้นของเกณฑ์การสมัครลงอย่างมากเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งได้เข้ามาพัฒนาฝีมือในวงกว้าง ทั้งยังมอบสิทธิพิเศษสามารถไปชิงแชมป์ Hardcorevision ในค่ายหลักได้อีกด้วยไม่ว่าจะได้สัญญาจากค่ายหลักหรือไม่ก็ตาม ขอแค่คุณเจ๋งโชว์ฟอร์มได้ดีก็มีโอกาสสูง
นอกจากใช้ประโยชน์ในเรื่องการขยายตลาดแล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่การลงโทษด้วย เพราะรายการ Blaze จะใช้เป็นแหล่งลับคมของเหล่าสตาร์ที่โดนลดบทบาทลง ไม่ว่าจากอาการบาดเจ็บหรือจากการฝึกซ้อมที่แย่ลง โดยนักมวยปล้ำเหล่านั้นอาจไม่มีบทบาทใน Fightclub แต่อาจมีแมทช์ปล้ำในเวที Blaze แทน ทั้งนี้จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือ นักมวยปล้ำที่ลงมาก็ได้ลับคมตัวเองไป ส่วนดาวรุ่งก็ได้พัฒนาฝีมือจากนักมวยปล้ำรุ่นพี่ ส่วนสมาคมก็ได้การบริหารจัดการที่ดีและสอดคล้องกับนโยบาย นอกจากนั้น Diva ที่หากเซ็นสัญญาอยู่กับสมาคมต่อไปก็จะได้ถูกบรรจุในนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้รายการ Blaze นั้นได้เปิดรับสมัครนักมวยปล้ำในวันจันทร์และมีนักมวยปล้ำเข้ามาสู่ชายคาแล้วถึง 6 คนเป็นดาวรุ่งทั้งหมด และมีผู้จัดการทั่วไปคือ Walter Brother ซึ่งจะรับหน้าที่พิธีกรและผู้บรรยายด้วย GM ผิวสีก็ไม่ใช่ใครอื่นเป็นเพื่อนสนิทกับ Rolan นั่นเอง โดยเจ้าตัวจบปริญญาโทด้านการบริหารและการตลาดมาจากประเทศอังกฤษ และชื่นชอบมวยปล้ำมาตั้งแต่เด็กแถมยังเป็นแฟนตัวยงของ NOW ตั้งแต่ปี 2009 ที่เริ่มก่อตั้ง ทำให้หายห่วงเรื่องการบริหารงานไปได้เลย ส่วนรูปแบบรายการนั้นจะไม่ลงสัปดาห์เดียวกับ NOW Fightclub แต่อาจลงสลับๆกันไม่มีเวลากำหนดที่แน่นอนแล้วแต่ช่วงเดือนนั้นๆ
การตลาดในครั้งใหม่นี้จะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่มีใครรู้ได้ NOW ในยุคใหม่นี้ยังต้องการการเรียนรู้อยู่เสมอ มีการลองผิดลองถูกเพื่อปรับไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดกับสมาคมและสมาชิกทุกคน เช่นเราเห็นหลายๆธุรกิจกว่าจะคลำเจอทางที่ใช่ต้องล้มลุกคลุกคลานมากมาย ขณะนี้ NOW กำลังเจอกับเส้นทางใหม่ในโลกมวยปล้ำออนไลน์ที่เปลี่ยนไปในยุค E-Fed การตลาดในครั้งนี้อาจเป็นคำตอบที่ใช่ก็เป็นได้..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น